วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตอบ อุ๋ย บุดดาเบลส เรื่องธรรมกาย


วันนี้ผมขอ  copyคำตอบของ จีน่าแจ๊ด บลา..บลา มาให้อ่านกันนะครับ ถ้าดีก็แชร์วนๆ ไป

 

ที่ผ่านมาดิฉันรู้สึกชื่นชมคุณอุ๋ยนะคะ เพราะที่บ้านก็ไปกปปส.เหมือนกัน แต่ขณะเดียวกันดิฉันก็เข้าวัดปากน้ำเหมือนคุณอุ๋ยด้วย แต่พอย้อนดูคุณอุ๋ยหน้าจอตอนออกรายการ ก็เกิดความไม่สบายใจ ที่คุณอุ๋ยพูดว่า ไม่ขอเรียกพระธัมมชโยว่าพระ เพราะขาดจากความเป็นพระแล้ว
 
ตรงจุดนี้เอง ในฐานะที่ดิฉันดูรายการคุณอุ๋ย ก็อยากให้ข้อมูลคุณอุ๋ยเพิ่มนิสนึง และก็จะขอตอบคนไทยทั้งหมดด้วย แต่ไม่ได้ตอบเพราะเข้าข้างพวกวัดธรรมกายนะคะ แต่ดิฉันในฐานะที่ศึกษาธรรมะมาคนนึง

ที่คุณอุ๋ยบอกว่า เจ้าอาวาสไม่ใช่พระเพราะอวดอุตริฯ     ???

หากคุณอุ๋ย หรือผู้อ่านคนอื่นๆเกลียดวัดพระธรรมกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาอ่านบทความนี้ ก็คงมีคำตอบในใจอยู่แล้วว่า "เจ้าอาวาสวัดนี้ อวดอุตริฯจริง" ซึ่งไหนๆ ก็คิดว่าจริงแล้ว ก็อยากให้อ่านต่ออีกนิด แต่ดิฉันก็ไม่ได้หวังจะให้ผู้อ่านเปลี่ยนใจอะไรหรอก เพราะแค่อยากให้ผู้อ่านมีข้อมูลอีกด้านว่า เจ้าอาวาสท่านอวดอุตริฯ จริงๆ หรือเป็นเพราะเราหลงเชื่อตามๆ กันมาโดยที่ไม่ได้ศึกษาจริงจังกันแน่

ดังนั้น ก่อนจะกล่าวหาว่า เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า..อวดอุตริฯ หรือ make เรื่องมั่วๆ มาหลอกคน ตามที่คุณอุ๋ยดูจากช่อง DMC ก็อยากจะถามผู้อ่านร่วมทุกคนว่าเข้าใจคำว่า "อวดอุตริมนุสธรรม" มากแค่ไหน ? คำนี้หมายถึงอะไร ? มีความหมายครอบคลุมแค่ไหน ?

 คำว่า "อวดอุตริมนุสธรรม" พูดง่ายๆ ก็คือ การกระทำของพระที่อวดอ้างคุณความดีหรือคุณวิเศษของตน ถ้าตัวท่านมีคุณวิเศษอย่างนั้นจริงๆ ก็ถือเป็นอาบัติเบาที่เรียกว่า "อาบัติปาจิตตีย์"  แต่ถ้าท่านไม่มีคุณวิเศษอย่างนั้นจริงๆ  ก็เป็นอาบัติหนักถึงขั้น "ปาราชิก"

 แต่ถ้าพระผู้มีคุณวิเศษนั้นจริงๆ แล้วใช้คุณวิเศษ เช่น ใช้ความทรงอภิญญามาเทศน์สอน เพื่อประโยชน์แห่งการพ้นทุกข์ของญาติโยม โดยมิได้มีเจตนาเพื่อโอ้อวดตนเลย ก็ไม่ถือว่าอวดอุตริฯ  เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงธรรมโดยการระลึกชาติแล้วเอามาสอน  อีกทั้งยังตรัสว่า คนนั้น คนนี้ ตายแล้วไปไหน อดีตชาติทำกรรมอะไรมา จะต้องแก้ไขปรับปรุงตัวอย่างไร ซึ่งอย่างนี้ถือว่าไม่เป็นการอวดอุตริฯ แต่อย่างใด !!

หรืออย่างหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ท่านใช้สิ่งที่ได้จากการทำสมาธิขั้นสูง อธิบายนรกสวรรค์ และช่วยมนุษย์ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือเอาบุญไปช่วยมนุษย์ที่ตายไปแล้ว  ก็ไม่ถือเป็นการอวดอุตริฯ เช่นกัน

มาถึงกรณีของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หากลองปลอมตัวเข้ามาเป็นสาวกวัดนี้ ก็จะพบว่า ท่านไม่เคยพูดโอ้อวดตัวถึงความทรงอภิญญาใดๆ ของท่านเลย แถมเวลาจะเทศน์สอนยังพูดทุกครั้งแถมย้ำว่า หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาวหนึ่งที   แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา...ให้พอเป็นความรู้ติดแข้งติดขา   ถ้าจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร

แถมไม่เคยมีสักครั้งที่ท่านจะกล่าวอ้างตัวเองว่า ท่านนั่งสมาธิไปดูด้วยตัวเอง    หรือใช้ญาณทัสสนะของท่านไประลึกชาติ   เพื่อดูเรื่องราวในอดีตหรือดูการไปเกิดมาเกิดของใคร    เพราะฉะนั้น การเล่าเรื่องในลักษณะนี้   จึงไม่ใช่การอวดอุตริมนุสธรรม  แต่มีจุดประสงค์มุ่งเน้นสอนคนให้คนรู้และเข้าใจเรื่องกฏแห่งกรรม  

จากพฤติกรรมของท่านจะเห็นว่า นอกจากไม่อวดอุตริฯ แล้ว  ต้องบอกว่า ท่านยังถ่อมตัวด้วยซ้ำ เพราะลองคิดดูเถอะ  หากคนๆ หนึ่ง ตั้งแต่อายุ 19 ปี ก็นั่งสมาธิทั้งวี่ทั้งวันกับแม่ชีที่สำเร็จวิชชาที่เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่วัดปากน้ำมาตลอด (คุณยายจันทร์ ขนนกยูง)  และพอเรียนจบปริญญาตรี ก็บวช และนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้านับเวลาถึงตอนนี้ก็นั่งสมาธิมายาวนานถึง 54 ปี โดยไม่ขาดแม้แต่เพียงวันเดียว แถมนั่งที..ก็ไม่ใช่นั่งแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง เพราะปกติท่านนั่งครึ่งค่อนวันหรือทั้งวัน

ตรงจุดนี้ อยากให้ทำใจเป็นกลางๆ แล้วลองคิดดูเถอะว่า ท่านนั่งสมาธิเยอะขนาดนี้ จะไม่บรรลุธรรมะอะไรบ้างเลยรึ ?  และที่มากไปกว่านั้นท่านยังอ่านพระไตรปิฎกจนหมด สวดปาฏิโมกข์ได้ทั้งแบบสวดไปและสวดย้อนกลับอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ดูหนังสือเลย ซึ่งพระอย่างนี้จะไม่มีคุณวิเศษอันใดเลยรึ ? 

และที่คุณอุ๋ยพูดถึงกรณีหลวงพ่อโกงที่ดินวัด เมื่อก่อนดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนคุณอุ๋ยนี่แหละค่ะ แต่พอไปเจอเอกสารชี้แจงที่พวกวัดธรรมกายเค้าทำมา ก็เลยคิดอีกอย่างนึง ก็เลยอยากเอามาแชร์เพื่อให้เข้าใจกันค่ะ

 

ส่วนที่คุณอุ๋ยบอกว่าถ้าทำบุญกับพวกวัดธรรมกาย แล้วจะได้เลื่อนสวรรค์ไปชั้นนั้นชั้นนี้

ตรงนี้เองถ้าคุณอุ๋ยเป็นศิษย์วัดปากน้ำ ก็น่าจะรู้คำตอบตรงนี้ได้ชัด เพราะสมัยที่หลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ หลังท่านฉันเสร็จ ก็จะมีคนเอารูปหรือเขียนชื่อคนตาย พร้อมซองทำบุญ ไทยธรรม มาถวาย ซึ่งหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็ให้แม่ชีที่ได้ธรรมกายที่นั่งอยู่ข้างๆ ท่าน 2 -3 คน (ซึ่งจะหมุนเวียนผลัดวันกันมาเพราะพวกได้ธรรมกายมีหลายคน) แล้วหลวงพ่อวัดปากน้ำก็บอกว่า ให้เอาบุญไปให้ จากนั้นก็ให้แม่ชีนั่งสมาธิส่งบุญให้ผู้ตายตรงนั้นกันเลย แถมยังไปดูอีกว่า ไปสวรรค์ชั้นไหนแล้ว หรือช่วยจากนรกได้ไหม ซึ่งการกระทำอย่างนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกตินะคะ  ไม่เชื่อลองไปถามแม่ชีที่วัดปากน้ำดูก็จะได้ข้อมูลที่ชัดขึ้นค่ะ

ปล.คุณอุ๋ยอย่าโกรธดิฉันที่ตอบแบบนี้นะคะ เพราะดิฉันคิดว่า คนรุ่นใหม่อย่างคุณอุ๋ย ใจกว้างพอจะรับความคิดต่างหรือข้อมูลเพิ่มจริงๆค่ะ

CR : copy มาจากห้อง Line คุณ จีน่าแจ๊ดบลา..บลา