เพื่อฝากถามว่า..สงสัยเหมือนกันป่าว...?
1. เงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่หายไป 12,000 กว่าล้านบาท แต่ทำไม DSI มาตามไล่บี้กับพวกธรรมกายที่เดียวอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆ ที่เงินคุณศุภชัยบริจาคให้พวกธรรมกายก็แค่ 600 กว่าล้าน แล้วทำไม..ก้อนเงินที่เหลือจำนวนมหาศาล 11,000 กว่าล้าน ไม่ไปไล่บี้แบบอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้บ้าง ? เหมือนคุณทำแบงค์พันหายไป และก็ทำเหรียญบาทหาย 1 เหรียญ แต่กลับเอาแรงทั้งหมดมาตามหาแต่เหรียญบาท แปลกจริงๆ !!
2. เงินสหกรณ์หลายพันล้าน ถูกบริจาคไปตั้งหลายองค์กร (ไปสืบดู) แต่ DSI มาตามเงินคืนที่วัดพระธรรมกายที่เดียว แถมยังยัดข้อหายักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน รับของโจรให้อีกด้วย ทำไมไม่ตั้งข้อหารับของโจรกับองค์กรอื่นบ้าง ? ทำไมเจาะจงแต่วัดพระธรรมกายที่เดียวเท่านั้น ?
3. เงินที่บริจาคให้วัดนั้น วัดไม่สามารถคืนให้ได้ เพราะถ้าคืนก็ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ลูกศิษย์วัดก็แสดงความมีน้ำใจต่อสหกรณ์ ด้วยการตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือให้ 600 กว่าล้าน เพื่อช่วยสมาชิกอีก 5 หมื่นคน เพื่อจะได้ไม่เดือดร้อน ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือก็ได้ แต่ทำไมยังตามจิก ตามจี้ ไล่บี้เขาอีก ?
4.ในเมื่อเจ้าทุกข์ (คือสหกรณ์) แจ้งไปทาง DSI และอัยการให้ถอนฟ้องส่วนของวัดพระธรรมกายแล้ว ทำไมถึงยังดึงดันจะดำเนินคดีกับพวกธรรมกายให้ได้ ทั้งที่คู่กรณีตกลงไกล่เกลี่ยกันเองได้แล้ว ?
5. คดีเงินสหกรณ์ที่หายไปเป็นพันล้านนั้น ถูกแบ่งย่อยเป็นหลายร้อยคดี ต่างกรรมต่างวาระกัน พวกพระธรรมกายเป็นเพียง 1 ใน หลายร้อยคดีเท่านั้น หนำซ้ำยังจัดเป็นคดีที่อยู่เกือบลำดับสุดท้าย ทำไมถึงมาเร่งทำคดีของวัดพระธรรมกายก่อนเพื่อน ?
6. การตั้งข้อหาฟอกเงินกับรับของโจร มีโทษร้ายแรงถึงขั้นยึดทรัพย์ทั้งหมดของวัดพระธรรมกาย ขณะที่ศาสนสมบัติทั้งหมดของวัดพระธรรมกายได้มาจากการบริจาคของประชาชนตลอด 47 ปี การรีบร้อนตั้งข้อหาโดยขาดหลักฐานและพยาน แล้วรีบร้อนรวบลัดขั้นตอนของลำดับคดี เพื่อจะอ้างอำนาจ
ศาลมาใช้อายัดศาสนสมบัติทั้งหมดของวัดพระธรรมกาย ถามว่าเป็นธรรมกับประชาชนเป็นล้านคนที่ช่วยกันสร้างวัดนี้ขึ้นมาหรือไม่ ?