วันนี้..ผมได้คุยกับเพื่อนเก่าในก้วน เพื่อนมันบอกว่า..
สังคมวุ่นวายมาก อยากหันหน้าไปพึ่งธรรมะบ้าง แต่พอมาเจอความวุ่นวายในวงการพระสงฆ์ในปัจจุบัน ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งอะไรดี...
พอผมฟังเพื่อนพูดอย่างนี้...ก็ทำให้หวนนึกถึงข้อมูล..แผนการล้มพุทธที่เคยอ่าน
ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ผมว่า..เขาใกล้ทำสำเร็จแล้วล่ะ...
เพราะสามารถทำให้คนพุทธเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์สำเร็จแล้วจริงๆ
และพอเกิดอะไรขึ้น..ชาวพุทธก็ไม่มีจิตสำนึกในการช่วยกันปกป้องพระพุทธอย่างจริงจัง
แต่ผมก็เข้าใจเพื่อนผมนะครับ เพราะวันๆ จะเอาตัวเองให้รอดในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ยังยากเลย
จะมาให้มัน ฮึดสู้..มาปกป้องศาสนาก็ยากอยู่
ซึ่งคนส่วนใหญ่ของประเทศไทย ก็คงเหมือนเพื่อนผมนี่แหละครับ
แม้ต่อให้ศาสนาพุทธจะล่มสลายไปจริงๆ และเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามกันทั้งประเทศ
คนไทยยังไม่เดือดร้อนอะไรเลย...
พอผมคิดๆ มาถึงตรงนี้ ก็อ่านไปเจอบทความของคุณลูกตาลลอยแก้ว
ซึ่งผมว่า..อ่านแล้วได้ข้อคิดดี ซึ่งเขาจั่วหัวว่า...
"พระวุ่นวาย..หรือใครสร้างความวุ่นวายให้พระกันแน่ !!!"
หากมองผิวเผินแบบผ่านๆ บางคนอาจคิดว่า..ในตอนนี้ ดูสังคมพระวุ่นวายจัง แต่ถ้ามาศึกษากันให้ดีจะรู้ว่า..จริงๆ แล้ว สังคมพระน่ะท่านไม่ได้วุ่นวายเลย
เพราะแต่ไหนแต่ไร..คณะสงฆ์ท่านก็บริหารปกครองกันได้ดีอยู่แล้ว ผิดถูกก็ยึดตามพระธรรมวินัยและพรบ.สงฆ์มาโดยตลอด จวบจนกระทั่งมาถึง ณ วันนี้..คณะสงฆ์ทั้งธรรมยุตกับมหานิกายต่างก็สมัครสมานสามัคคีกันดี แถมยังเห็นพ้องต้องกันที่จะเชิดชูสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เป็นสมเด็จพระสังฆราชด้วย
ทั้งธรรมยุติ กับมหานิกายท่านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันสักหน่อย |
แต่กลับมีกลุ่มคนพาลที่อยากเป็นใหญ่หรือต้องการอะไรแอบแฝงบางอย่าง..ออกมาโวยวาย เสี้ยมให้คณะสงฆ์แตกกัน ฟ้องร้อง มส.บ้าง กล่าวหาคนนั้นคนนี้
ดูสิ..ใครน้า...เสี้ยม ๆ ๆ ให้ธรรมยุติกับมหานิกายเขาแตกคอกันตลอด อย่างงี้..ที่บ้านเรียกว่า ทำสังฆเภทซึ่งเป็นกรรมหนักซึ่งทำให้ผู้ก่อไม่มีโอกาสบรรลุธรรมในชาตินี้ได้เลย |
อีกทั้ง..ยังพยายามใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการปั่นป่วนสังคม จนทำให้สังคมสับสนจนบางคนก็เบื่อหน่ายวงการคณะสงฆ์ หรือเห็นผิดตามกลุ่มคนเหล่านี้ไปเลยก็มี